โดนกดไปสองยังสตรองอยู่ "แมนฯ ซิตี้" ไม่แพ้เลย 5 นัดหลังสุด แม้ตามคู่แข่งก่อน 2 เม็ด

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่แพ้เลย 5 นัดหลังสุด

เลือดนักสู้มันอยู่ในสายเลือด “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ไม่เคยพบกับความปราชัยเลยตลอด 5 นัดหลังสุดในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์

วันที่ 20 เดือนมกราคม 66 เลือดนักสู้มันอยู่ในเชื้อสาย “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมชาวสเปน ไม่เคยเจอกับความพ่ายแพ้เลยตลอด 5 นัดหลังสุดในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังแซงกลับมาเอาชนะ “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ได้ 4-2 ในเกมลีกนัดล่าสุดเมื่อช่วงเวลาค่ำคืนที่ผ่านมา

ย้อนกลับไปยังเกมดังกล่าว เป็นทางฝั่งของทีมเยือน “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ที่บุกมานำห่างไปก่อน 2-0 จาก เดยัน คูลูเซฟสกี นาทีที่ 44 และ เอแมร์ซอน รอยัล นาทีที่ 45+2 แต่ว่าเจ้าถิ่น “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รัวแซงทีเดียว 4 ประตู จาก ฆูเลียน อัลวาเรซ นาทีที่ 51, เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ นาทีที่ 53 และ ริยาด มาห์เรซ เบิ้ลสองตุงปิดท้ายในนาทีที่ 63 และนาทีที่ 90 ทำให้เก็บสามคะแนนสำคัญได้สำเร็จ

ทั้งนี้ผลพวงจากการโดนนำไปก่อน 2 ประตู และกลับมาเอาชนะได้ทำให้ “เรือใบสีฟ้า” แมน ซิตี้ ไม่พบกับความปราชัยเลยแม้โดนยิงนำไปก่อนสองลูก โดยสามารถพลิกกลับมาเอาชนะได้ถึง 3 ครั้ง และเสมอ 2 คราวด้วยกัน ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขัน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ.

“แมนฯ ซิตี้” รัวครึ่งหลัง เปิดรังแซงดับ “สเปอร์ส” จี้ปืนใหญ่ 5 แต้ม ศึกพรีเมียร์ลีก

เรือใบสีฟ้า

“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ ทอตแนม ฮอตสเปอร์เก็บ 3 คะแนนสำคัญ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2022-23 ทุกวันวันพฤหัสบดีที่ 19 เดือนมกราคม 66 คู่ที่น่าดึงดูด “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 2 ของตาราง เปิดสนามเอติฮัด สเตเดียม รับการมาเยือนของ “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮฮตสเปอร์

เริ่มครึ่งแรกมาถึงนาทีที่ 44 สเปอร์ส ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จาก เดจนถึง คูลูเซฟสกี

หลังจากนั้นตอนทดเจ็บ นาทีที่ 45+2 สเปอร์ส หนีเป็น 2-0 จาก เอเมอร์สัน รอยัล ก่อนที่จะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 51 แมนฯ ซิตี้ ไล่มาเป็น 1-2 จาก ฮูเลียน อัลวาเรซ หลังจากนั้นนาทีที่ 53 แมนฯ ซิตี้ ตีเสมอเป็น 2-2 จาก เอ้อร์ลิง ฮาลันด์

ถึงนาทีที่ 63 แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำ 3-2 จาก ริยาด มาห์เรซ ก่อนที่ มาห์เรซ จะมาบวกอีกประตูในนาทีที่ 90 ให้ แมนฯ ซิตี้ ขยับหนีเป็น 4-2

ช่วงที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม แมนเชสเตอร์ซิตี้ ชนะ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ 4-2 แมนฯ ซิตี้ เก็บเพิ่มเป็น 42 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง อาร์เซนอล 5 คะแนน ส่วน สเปอร์ส มี 33 คะแนนเท่าเดิม รั้งอันดับ 5 ต่อไป

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รัวแซงดับ สเปอร์ส แบบสุดมัน 4-2 รีรองจ่าฝูงศึกพรีเมียร์ลีก

“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ซิตี้ รัวแซงเอาชนะ “ไก่เดือยทอง” ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ ไปได้แบบสุดมัน 4-2 จากผลงานของ มาห์เรซ ยิง 2 จ่าย 1 รั้งรองจ่าฝูงศึกพรีเมียร์ลีกถัดไป โดยเก็บเพิ่มเป็น 42 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เหลือ 5 แต้ม

รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เอแดร์ซอน – ไคล์ วอล์คเกอร์, ริโก้ ลูอิส (ไคล์ วอล์คเกอร์ น.83)

จอห์น สโตนส์, มานูเอล อาคานจี, นาธาน อาเก้ – อิลคาย กุนโดกัน (แบร์นาร์โด้ ซิลวา น.81)

โรดรี้ เอร์นานเดซ – ริยาด มาห์เรซ, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ, แจ็ค กรีลิช – เออร์ลิง ฮาลันด์ (รูเบน ดิอาส น.90)

ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์

อูโก้ โยริส คริสเตียน โรเมโร่, เอริค ดายเออร์, เบน เดวิส (เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ น.78)

เอเมอร์ซอน โรยัล (ริชาร์ลิซอน น.78), ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ก, โรดริโก้ เบนตานกูร์ (อีฟส์ บิสซูม่า น.75), อีวาน เปริซิช (ไรอัน เซสเซยง น.69)

เดยัน คูลูเซฟสกี้, ซน ฮึง-มิน – แฮร์รี่ เคน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

สปิริตเรือใบ! มาห์เรซ สุดปลื้ม แมนซิตี้ พลิกนรกคว่ำ สเปอร์ส

แมนฯ ซิตี้ เปิดรังเอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับ สเปอร์ส โดยทีมเยือนทำผลงานยอดเยี่ยมเมื่อยิงประตูนำเจ้าบ้าน 2-0 ในช่วงท้ายครึ่งแรก แต่ทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ในครึ่งหลัง และจัดแจงตะบันคืนแบบทบต้นทบดอก 4 ลูกรวด คว้า 3 คะแนนได้อย่างยอดเยี่ยม

มาห์เรซ ซึ่งซัดสองประตู และทำ 1 แอสซิสต์ คว้าแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ได้อย่างยอดเยี่ยม บอกว่า “ผมพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพลิกสถานการณ์ของทีม เราเริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยมในครึ่งหลัง เรายิงได้สองประตูตั้งแต่ช่วงต้นเกม (ครึ่งหลัง) และมันทำให้สถานการณ์ของเรากลับมาดีขึ้น”

“ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนกอบกู้สถานการณ์ของทีมหรอก เราทุกคนพยายามที่จะสู้อย่างเต็มที่ และเล่นด้วยความดุดันมากขึ้น เราเริ่มสร้างโอกาสได้มากมาย และในที่สุดเราก็ยิงประตูได้” อดีตสตาร์เลสเตอร์ ซิตี้ ระบุ