มาแล้ว! รายชื่อ 11 ตัวจริง “อาร์เจนตินา” ปะทะ “โครเอเชีย” ก่อนดวลเดือด ฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ คู่แรก เวลาตี 2 วันที่ 13 ธ.ค. 2565 ฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ คู่แรก เวลา 02.00 น. ถ่ายทอดสดทาง ทรูโฟร์ยู 24 เป็นเกมที่สนามลูซาอิล ไอคอนิก สเตเดียม “อดีตแชมป์โลก 2 สมัย” ทีมชาติอาร์เจนตินา อันดับ 3 ของโลก พบกับ “รองแชมป์เก่า” ทีมชาติโครเอเชีย อันดับ 12 ของโลก ซึ่งทั้ง 2 ทีมประกาศรายชื่อ 11 ตัวจริงออกมาแล้ว ดังนี้
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม
อาร์เจนตินา (ระบบ 4-3-1-2)
เอมิเลียโน มาร์ติเนซ (ผู้รักษาประตู)
นาอูเอล โมลินา, คริสเตียน โรเมโร, นิโคลัส โอตาเมนดี, นิโคลัส ตาเกลียฟิโก
เอ็นโซ เฟร์นันเดซ, เลอันโดร ปาเรเดส, อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์
โรดริโก เด ปอล
ลิโอเนล เมสซี , ฮูเลียน อัลวาเรซ
โครเอเชีย (ระบบ 4-3-3)
โดมินิค ลิวาโควิช (ผู้รักษาประตู)
โยซิป ยูราโนวิช, เดยัน ลอฟเรน, ยอสโก กวาร์ดิโอล, บอร์นา โซซา
ลูกา โมดริช , มาร์เซโล โบรโซวิช, มาเตโอ โควาชิช
มาริโอ ปาซาลิช, อันเดรจ์ ครามาริช, อิวาน เปริซิช
ทั้งนี้ ลิโอเนล เมสซี ที่ผ่านเวทีฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มาแล้ว 5 สมัย (ปี 2006, 2010, 2014, 2018, 2022) ได้ทำสถิติลงเล่นมากที่สุด เทียบเท่า โลธาร์ มัทเธอุส ตำนานทีมชาติเยอรมนีที่เคยทำไว้ 25 นัด (ปี 1982, 1986, 1990, 1994, 1998) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ปีนี้ยิงเยอะสุด เปิดสถิติทำแต้มนามทีมชาติ 18 ปี ของ “เมสซี” มีปีเดียวที่ยิงไม่ได้เลย
ปีนี้ปีเดียว ลิโอเนล เมสซี ยิงในนามทีมชาติมากกว่า 3 ปีที่ผ่านมารวมกันเสียอีก
วันพุธที่ 14 ธ.ค. 2565 ควันหลงหลังจากที่ทีมชาติอาร์เจนตินา เอาชนะ ทีมชาติโครเอเชีย ไปด้วยสกอร์ 3-0 ในรอบรองชนะเลิศของศึกฟุตบอลโลก 2022 ในสนามลูซาอิล ไอคอนิค สเตเดียม เมื่อช่วงเวลาค่ำคืนที่ผ่านมา
ในเกมนี้ ลิโอเนล เมสซี เปิดสกอร์แรกจากลูกจุดโทษให้ อาร์เจนตินา ขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 34 โดยที่ประตูนี้ส่งผลให้เป็นประตูที่ 11 ของเจ้าตัวในฟุตบอลโลก ทุกยุค โดยกลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดของอาร์เจนตินา ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยแซงหน้า กาเบรียล บาติสตูตา ดาวยิงสมัย 1990 ของชาติที่ทำไว้ 10 ประตูในฟุตบอลโลก และ 1 แอสซิสต์ที่ทำในเกมนี้แปลงเป็นแอสซิสต์ที่ 7 ในฟุตบอลโลก เท่ากับ ดิเอโก มาราโดนา แล้ว
ซึ่งหากนับตลอด 18 ปีที่ผ่านมาในการรับใช้ชาติ ประตูในเกมเมื่อคืนคือลูกที่ 16 ของปีนี้ในนามทีมชาติที่ เมสซี ทำได้ อย่างไรก็ดี ตลอด 18 ปีที่ผ่านมา มีปีเดียวที่เจ้าตัวทำแต้มไม่ได้เลยนั้นคือปี 2005 นั้นคือปีแรกที่เจ้าตัวมาติดชุดใหญ่ของทัพ ฟ้าขาว อย่างไรก็ดี ปี 2005 เขาทำ 2 แอสซิสต์ จากการลงเล่นทั้งสิ้น 6 นัด
ผลงาน 18 ปีในนามทีมชาติมีดังนี้
- 2005 – 0 ประตู 2 แอสซิสต์
- 2006 – 2 ประตู 2 แอสซิสต์
- 2007 – 6 ประตู 4 แอสซิสต์
- 2008 – 2 ประตู 2 แอสซิสต์
- 2009 – 3 ประตู 1 แอสซิสต์
- 2010 – 2 ประตู 1 แอสซิสต์
- 2011 – 4 ประตู 9 แอสซิสต์
- 2012 – 12 ประตู 1 แอสซิสต์
- 2013 – 6 ประตู 4 แอสซิสต์
- 2014 – 8 ประตู 4 แอสซิสต์
- 2015 – 4 ประตู 3 แอสซิสต์
- 2016 – 8 ประตู 6 แอสซิสต์
- 2017 – 4 ประตู 0 แอสซิสต์
- 2018 – 4 ประตู 3 แอสซิสต์
- 2019 – 5 ประตู 2 แอสซิสต์
- 2020 – 1 ประตู 0 แอสซิสต์
- 2021 – 9 ประตู 5 แอสซิสต์
- 2022 – 16 ประตู 6 แอสซิสต์
ซึ่งหากรวมยอด เมสซี จะทำไปทั้งสิ้น 96 ประตู กับอีก 55 แอสซิสต์ ตลอด 18 ปีกับทีมชาติอาร์เจนตินาชุดใหญ่
“เฮลิคอปเตอร์” นำเสื้อ “เมสซี” บินเหนือเมืองโรซาริโอหลัง อาร์เจนตินา เข้าชิงฟุตบอลโลก
สุดจริง “เฮลิคอปเตอร์” นำเสื้อ “ลิโอเนล เมสซี” บินอยู่เหนือเมือง โรซาริโอ ประเทศอาร์เจนตินาหลังทีมเอาชนะ “ทีมชาติโครเอเชีย” 3-0 ทะยานสู่รอบชิงแชมป์ “ฟุตบอลโลก 2022”
วันที่ 14 ธันวาคม 65 การเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ “ฟ้าขาว” ทีมชาติอาร์เจนตินา ภายใต้การนำทีม ลิโอเนล สกาโลนี เอาชนะ “แข้งตาหมากรุก” ทีมชาติโครเอเชีย 3-0 ในศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 4 ทีมสุดท้าย หรือ รอบรองชนะเลิศ เมื่อช่วงเวลาค่ำคืนที่ผ่านมา
เกมดังกล่าว “ฟ้าขาว” ทีมชาติอาร์เจนตินา ได้ 3 ประตูจาก ลิโอเนล เมสซี นาทีที่ 34 (จุดโทษ) ส่วนอีกสองประตูผลงานของ ฆูเลียน อัลบาเรซ ดาวยิงจาก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในนาทีที่ 39 และ นาทีที่ 69 ทำให้พวกเข้าไปสู่รอบชิงแชมป์ ได้อีกรอบ หลังจากที่ครั้งล่าสุด พวกเขาเคยเข้าชิงเมื่อปี 2014 แต่แพ้ให้กับ “อินทรีเหล็ก” ทีมชาติเยอรมนี 0-1
ล่าสุดหลังชัยในเกมนี้ของทัพ “ฟ้าขาว” ทีมชาติอาร์เจนตินา ทำให้นักเตะ ทีมงานสตาฟฟ์โค้ช รวมทั้งแฟนบอลเฮกึกก้องกันสุดเหวี่ยงกับการที่พวกเขามีโอกาสเข้าไปลุ้นแชมป์ฟุตบอลโลก อีกยุค ซึ่งชัยครั้งสำคัญคราวหนึ่งในประวัติศาสตร์ของพวกเขาทำให้มี เฮลิคอปเตอร์ ลำหนึ่งนำเสื้อแข่ง ทีมชาติอาร์เจนตินา ที่ปักชื่อของ ลิโอเนล เมสซี บินอยู่เหนือเมืองโรซาริโอ ประเทศอาร์เจนตินา เพื่อเป็นการฉลองชัยชนะในนัดนี้