สุดครึกครื้นพลังศรัทธาพญานาค แห่ไหว้ขอพร ช่วงวันหยุดยาว ดาราดังยุคเก่า พ่อรอง เค้ามูลคดี ควงลูกสาว ยุ้ย ปัทมวรรณ และครอบครัว พร้อมคณะดาราสาวสวย วรรณษา ทองวิเศษ เคารพบูชาขอพรเปิดทรัพย์ เชื่อเป็นสายพญานาค ส่งผลให้มีโชคลาภเปิดธุรกิจความสวยงามสุดปัง และถือโอกาสรำถวาย ด้านพ่อรอง ยันเชื่อศรัทธาสร้างโชคลาภ มีเงินมีทอง ยอมรับ จังหวัดนครพนม เปลี่ยนแปลงมากมายจากความเชื่อถือ แปลงเป็นเมืองเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว คณะดาราถือโอกาสจุดโชคเลขมงคล ให้แฟนๆได้นำไปเสี่ยงโชค ได้เลข 818
ตอนวันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวกล่าวว่า ที่ จังหวัดนครพนม บรรยากาศการท่องเที่ยวยังคงคึกคักต่อเนื่อง ในช่วงวันหยุด โดยเฉพาะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญ ลานพญาศรีสัตตนาคราช ที่ประดิษฐานองค์พญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์คศักดิ์สิทธิ์ ริมฝั่งแม่น้ำโขง นับว่าเป็นสถานที่สำคัญ ที่มีประชากร นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย ชาวลาว ต่างเดินทางมากราบไหว้ขอพร รวมถึง บุคคลสำคัญ รวมดารานักแสดงโด่งดัง ได้เดินทางมากราบไหว้ขอพร ประกอบพิธีบวงสรวงขอโชคลาภ ไม่ขาดระยะ นับว่าเป็นจังหวัดชายแดน ที่มีประชากร นักท่องเที่ยว มีความสนใจ และเป็นที่น่าสนใจประชากร นักท่องเที่ยว สำคัญของภาคอีสาน จนถึงเกิดผลดีต่อเศรษฐกิจกิจการค้าการท่องเที่ยว ของ จังหวัดนครพนม มีความเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด ทั้งเรื่องของพลังศรัทธาความเชื่อ ที่มีคนมากราบไหว้ขอพรประสบความสำเร็จ เรื่องโชคลาภ ถูกรางวัลใหญ่สลากกินแบ่งรัฐบาล ไปจนถึงความเชื่อถือเรื่องประสบความสำเร็จด้านค้าขาย หน้าที่การงาน ธุรกิจเจริญรุ่งเรื่อง กระทั่งเป็นสถานที่สำคัญพากันแห่มากราบไหว้ขอพร ตลอดทั้งปี เกิดผลดีต่อร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม บ้านพัก ถูกจับจองเต็ม ทุกๆวันหยุด
ล่าสุดได้มีดารานักแสดงโด่งดัง คุณ พ่อรอง เค้ามูลคดี อายุ 75 ปี ดาราหนังอาวุโส นักพากย์ และเป็นศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง
(ภาพยนตร์-ละครทีวี) ประจำปี พุทธศักราช 2560 พร้อมด้วย ลูกสาว ยุ้ย ปัทมวรรณ พร้อมครอบครัว รวมถึงคณะดาราดาราหนังโด่งดัง เป็นต้นว่า วรรณษา ทองวิเศษ ควงหวานใจพระเอกลิเกสุดหล่อนักร้องลูกทุ่งโด่งดัง อาท รณชัย
ที่รอติดตามถ่ายรูปสวยๆอยู่ไม่ห่าง แล้วก็ ธัญพร สนธิขันธ์ หรือ จอย ที-สเกิ๊ต ซึ่งเป็นวงสตริงหญิงล้วนที่ช่วงปี 2538 โด่งดังมากมายในหมู่วัยรุ่น จากค่ายเพลงคีตา เรคคอร์ดส หรือ คีตา เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ และ วาเนสซา บีเวอร์ นักร้อง ดาราหนัง นางแบบที่มีชื่อในยุค 90 ได้ถือโอกาสมาร่วมพิธีการบวงสรวง กราบขอพร ขอโชคลาภตามความเชื่อความศรัทธา
พร้อมมอบเครื่องเซ่นไหว้ รวมถึง ในคราวนี้ ยุ้ย ปัทมวรรณ ได้ถือโอกาสรำถวายองค์พญาศรีสัตตนาคราช ด้วยตัวเอง พร้อมจุดโชคเลขมงคลให้แฟนๆได้นำไปเสี่ยงโชคเป็นเลข 818
เช่นเดียวกันกับ ด้าน วรรณษา ทองวิเศษ อายุ 43 ปี เปิดเผยว่า
” เดิมทีมีความศรัทธาต่อองค์พญานาคมานานแล้ว และเป็นจังหวะเหมาะที่พวกตนพร้อมกับกลุ่มเพื่อนดารา ได้ร่วมกันทำธุรกิจเกี่ยวกับความงาม บริษัทจำหน่ายเครื่องสำอาง โดยเคยขอพรต่อองค์พญานาคมาหลายที่ ตามความเชื่อว่าตนเป็นลูกหลานพญานาค ตั้งใจไว้ว่าหากมีโอกาส จะมากราบไหว้ขอพรองค์พญาศรีสัตตนาคราช ถือเป็นความเชื่อความศรัทธา เพราะตนเชื่อว่าถึงแม้จะเกิดวิกฤติด้านเศรษฐกิจ หากเรามีความเชื่อความศรัทธา เรายังไปรอด จนกระทั่งเดือนนี้เป็นเดือนเกิด เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ในช่วงวันหยุดยาวจึงถือโอกาสมากราบไหว้ขอพร และขอรำถวายองค์พญาศรีสัตตนาคราชด้วยตนเอง โดยที่ผ่านมาถือว่าธุรกิจเจริญรุ่งเรืองและมีโชคลาภ และการได้เดินทางมากราบไหว้ขอพรเปิดทรัพย์ในครั้งนี้ เชื่อว่าจะส่งผลให้ธุรกิจเติบโตมากขึ้น ”
เช่นเดียวกันกับ ด้าน วรรณษา ทองวิเศษ อายุ 43 ปี เปิดเผยว่า
” เดิมทีมีความศรัทธาต่อองค์พญานาคมานานแล้ว และเป็นจังหวะเหมาะที่พวกตนพร้อมกับกลุ่มเพื่อนดารา ได้ร่วมกันทำธุรกิจเกี่ยวกับความงาม บริษัทจำหน่ายเครื่องสำอาง โดยเคยขอพรต่อองค์พญานาคมาหลายที่ ตามความเชื่อว่าตนเป็นลูกหลานพญานาค ตั้งใจไว้ว่าหากมีโอกาส จะมากราบไหว้ขอพรองค์พญาศรีสัตตนาคราช ถือเป็นความเชื่อความศรัทธา เพราะตนเชื่อว่าถึงแม้จะเกิดวิกฤติด้านเศรษฐกิจ หากเรามีความเชื่อความศรัทธา เรายังไปรอด จนกระทั่งเดือนนี้เป็นเดือนเกิด เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ในช่วงวันหยุดยาวจึงถือโอกาสมากราบไหว้ขอพร และขอรำถวายองค์พญาศรีสัตตนาคราชด้วยตนเอง โดยที่ผ่านมาถือว่าธุรกิจเจริญรุ่งเรืองและมีโชคลาภ และการได้เดินทางมากราบไหว้ขอพรเปิดทรัพย์ในครั้งนี้ เชื่อว่าจะส่งผลให้ธุรกิจเติบโตมากขึ้น ”
ด้าน คุณพ่อรอง เค้ามูลคดี อายุ 75 ปี ดาราโด่งดัง ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์-ละครโทรทัศน์) ประจำปี พุทธศักราช 2560 เปิดเผยว่า
” ย้อนกลับไปในอดีตประมาณ 40 ปีที่ผ่านมา เคยเดินทางมาถ่ายทำภาพยนตร์ที่จังหวัดนครพนม สมัยนั้นกับปัจจุบันแตกต่างไปเยอะมาก เพราะเชื่อว่าเกิดจากพลังศรัทธาเป็นสิ่งสำคัญ ในครั้งนี้จึงตั้งใจมากราบไหว้ขอพรองค์พญาศรีสัตตนาคราช เพราะเห็นหลายคนมากราบไหว้ขอพรประสบความสำเร็จ จึงถือโอกาสมากราบไหว้ขอพร ตามความเชื่อความศรัทธา ในช่วงใกล้สิ้นปี แต่ยอมรับมานครพนม ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยคือความน่ารัก อัธยาศัยไมตรีของชาวจังหวัดนครพนม ตนไปนั่งทานข้าวในร้านอาหารก็ยังมีคนจำได้ เข้ามาทักทาย และอยากฝากติดตามผลงานการแสดงที่จะออนแอร์ ในช่วงต้นปีหน้า ขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่ยังติดตามผลงานตลอดมา ”

พญาศรีสัตตนาคราช
พญาศรีสัตตนาคราช เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดนครพนม ประดิษฐานอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เทศบาลเมืองนครพนม ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมและความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคของชาวไทยและชาวลาวที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในฐานะที่เป็นผู้ดูแลปักปักษ์รักษาแถบลุ่มน้ำโขง รักษาพุทธศาสนาและองค์พระธาตุพนม
ทั้งเป็นการยกระดับแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนมเพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยองค์พญาศรีสัตตนาคราช เป็นตระกูลพญานาคที่สืบสายพันธุ์มาแต่ครั้งพุทธกาล มีความใกล้ชิดพระพุทธองค์ และพระพุทธศาสนา จนอาจถือเป็นต้นตระกูลแห่งพญานาคทั้งหลายทั้งปวง
ซึ่งองค์พญาศรีสัตตนาคราชที่จังหวัดนครพนมจัดสร้างขึ้น จะหล่อด้วยทองเหลือง น้ำหนักรวม 9,000 กก. มีลักษณะเป็นพญานาค 7 เศียร พ่นน้ำได้ ขดตัวอยู่บนแท่นฐานแปดเหลี่ยม ที่มีขนาดความกว้าง 6 เมตร ความสูงรวมฐาน 15 เมตร
ตำนานพญานาค เป็นความเชื่อในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งชาวพุทธจะมีเรื่องที่ถูกเล่าขานต่อกันมาอย่างยาวนาน ทั้งในพุทธประวัติและเรื่องราวของเกจิอาจารย์ โดยพญานาค หรือ นาค มีภาษาอังกฤษ คือ King of Nagas มีรูปร่างลักษณะเป็นงูตัวใหญ่ มีหงอนสีทอง และตาสีแดง เกล็ดเหมือนปลา มีหลายสีแตกต่างกันไปตามบารมีที่สื่อถึงความยิ่งใหญ่ มีบุญวาสนาและความอุดมสมบูรณ์
ส่วนลักษณะตามความเชื่อในแต่ละภูมิภาคจะมีความแตกต่างกันไป และที่สำคัญคือ พญานาคที่เป็นตระกูลธรรมดาจะมีเศียรเดียว แต่หากเป็นตระกูลที่สูงกว่านั้นจะมีสามเศียร ห้าเศียร เจ็ดเศียร หรือเก้าเศียร ซึ่งพวกนี้จะสืบเชื้อสายมาจาก พญาเศษนาคราช (อนันตนาคราช) ผู้เป็นบัลลังก์ของพระวิษณุนารายณ์ปรมนาท ณ เกษียรสมุทร ที่มีกายใหญ่โตมหึมามีความยาวไม่สิ้นสุด มี 1,000 เศียร มีอิทธิฤทธิ์สามารถบันดาลให้เกิดคุณและโทษได้
ทั้งสามารถจะแปลงร่างเป็นเทพบุตรหรือเทพธิดาที่มีรูปร่างสวยงามได้ ส่วนการเกิดของพญานาค จะสามารถเกิดได้ 4 แบบ คือเกิดแบบโอปปาติกะ เกิดแล้วโตทันที เกิดแบบสังเสทชะ เกิดจากเหงื่อไคล สิ่งหมักหมม เกิดแบบชลาพุชะ เกิดจากครรภ์ และเกิดแบบอัณฑชะ เกิดจากฟองไข่ ซึ่งในลุ่มน้ำโขงเชื่อว่าการเกิดมาเป็นแม่น้ำโขงเกิดจากการแถตัวของพญานาค
เนื่องจากพญานาคเป็นเจ้าบาดาลเป็นผู้ให้กำเนิดน้ำ โดยชาวไทยริมฝั่งโขงเชื่อว่า พญาศรีสุทโธนาคราช (นาคาธิบดีสีสุทโธ) เป็นกษัตริย์แห่งพญานาค ส่วนชาวลาวเชื่อว่าพญาศรีสัตตนาคราช (นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล) เป็นกษัตริย์แห่งพญานาค ซึ่งพญานาคทั้ง 2 องค์ จะชอบมาจำศีลบำเพ็ญเพียร และปฏิบัติธรรมที่วัดพระธาตุพนม ทำให้กลายเป็นเพื่อนสนิทกันและคอยดูแลปกปักษ์รักษาผู้คนในแถบลุ่มน้ำโขงและองค์พระธาตุพนม